เว็บไซต์ขององค์การบริหารส่วนตำบลห้วยยาง มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น กรุณาอ่าน นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)
ให้ความยินยอม
ปิดเมนู ×
เมนูหลัก (Main)
camera_alt
ภาพกิจกรรม
volume_down
ข่าวประชาสัมพันธ์
chat_bubble
ประกาศจัดซื้อจัดจ้าง
thumb_up
facebook
cast
ระบบการจัดซื้อจัดจ้าง egp
ข้อมูลหน่วยงาน
image
สถานที่ท่องเที่ยว
info_outline
วิสัยทัศน์-พันธกิจ
place
ข้อมูลหน่วยงาน
โครงสร้างส่วนราชการ
group
คณะผู้บริหาร
group
สำนักงานปลัด
group
กองคลัง
group
กองช่าง
group
สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล
group
หัวหน้าส่วนราชการ
group
กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม
group
หน่วยตรวจสอบภายใน
group
บุคลากรศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
ข้อมูลข่าวสาร
volume_down
ข่าวประชาสัมพันธ์
chat_bubble
ประกาศจัดซื้อจัดจ้าง
folder
รายงานผลการปฏิบัติงาน
folder
งบประมาณรายจ่ายประจำปี
folder
แผนการจัดซื้อจัดจ้างแผนการจัดหาพัสดุ
folder
ข้อมูลข่าวสารกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
info_outline
ข้อมูลการติดต่อ
ข้อมูลพื้นฐาน
today
โครงสร้างส่วนราชการ
verified_user
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
verified_user
อำนาจหน้าที่
volume_down
กิจกรรม การเปิดโอกาสให้เกิดการมีส่วนร่วม
apps
โครงสร้างและการจัดองค์กรในการดำเนินการ
verified_user
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอาเซียน
verified_user
สาระน่ารู้
visibility
ตราสัญลักษณ์
info_outline
ข้อมูลการติดต่อ
ข่าวประชาสัมพันธ์
volume_down
ข่าวประชาสัมพันธ์
cast
ประกาศราคากลาง-RSS
cast
แผนการจัดซื้อจัดจ้าง-RSS
cast
ประกาศเชิญชวน-RSS
cast
ประกาศรายชื่อผู้ชนะการเสนอราคา-ประกาศผู้ได้รับการคัดเลือก
แผนการดำเนินงาน
folder
แผนการดำเนินงานประจำปี
folder
รายงานการกำกับติดตามการดำเนินงานประจำปี-รอบ-6-เดือน
folder
รายงานผลการดำเนินงานประจำปี
folder
แผนพัฒนาท้องถิ่น
folder
รายงานผลการดำเนินงานประจำปี
folder
รายงานผลการติดตามและประเมินผล
การปฏิบัติงาน
folder
คู่มือมาตรฐานการปฏิบัติงาน
folder
คู่มือปฎิบัติเรื่องร้องเรียน
การให้บริการ
folder
คู่มือมาตรฐานการให้บริการ
folder
ข้อมูลเชิงสถิติการให้บริการ
folder
รายงานผลการสำรวจความพึงพอใจการให้บริการ
folder
แบบคำขอรับ-ขอต่ออายุ
folder
คู่มือประชาชน
folder
มาตรฐานการปฏิบัติงาน
folder
ฐานข้อมูลเปิดภาครัฐ (Open Data)
แผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี
folder
แผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี
folder
รายงานการกำกับติดตามการใช้จ่ายงบประมาณ-ประจำ-รอบ-6-เดือน
folder
รายงานผลการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี
folder
ข้อบัญญัติงบประมาณ
การจัดซื้อจัดจ้างหรือการจัดหาพัสดุ
folder
แผนการจัดซื้อจัดจ้างแผนการจัดหาพัสดุ
chat_bubble
ประกาศจัดซื้อจัดจ้าง
folder
สรุปผลการจัดซื้อจัดจ้างประจำเดือน
folder
รายงานผลการจัดซื้อจัดจ้างประจำปี
folder
ข่าวสอบราคา-ประกวดราคา
การบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล
folder
นโยบายการบริหารทรัพยากรบุคคล
folder
การดำเนินการตามนโยบายการบริหารทรัพยากรบุคคล
folder
หลักเกณฑ์การบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล
folder
รายงานผลการบริหารและการพัฒนาทรัพยากรบุคคลประจำปี
folder
นโยบายการบริหารทรัพยากรบุคคล
folder
รายงานผลการพัฒนาทรัพยากรบุคคล
folder
การบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล
การเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กร
folder
การเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กร
folder
การสร้างวัฒนธรรม No Gift Policy
folder
ประมวลจริยธรรมสำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐ
folder
การขับเคลื่อนจริยธรรม
folder
การประเมินจริยธรรมเจ้าหน้าที่ของรัฐ
folder
การเปิดโอกาสให้เกิดการมีส่วนร่วม
folder
รายงานผลตามนโยบาย No Gift Policy
การเปิดโอกาสให้เกิดการมีส่วนร่วม
language
ร้องเรียนออนไลน์
camera
สมุดเยี่ยม
video_label
ศูนย์ข้อมูลข่าวสาร
verified_user
สายตรงผู้บริหาร
thumb_up
กระดานสนทนา
sentiment_very_satisfied
สำรวจความพึงพอใจ
share
สำรวจความคิดเห็น
check
ita2563
public
e-service
volume_down
กิจกรรม การเปิดโอกาสให้เกิดการมีส่วนร่วม
Social Network
facebook
อบต.ห้วยยาง
ข้อมูล
ร้องเรียน
ออนไลน์ Online
สายตรง
ผู้บริหาร
ศูนย์บริการ
ข้อมูลข่าวสาร
กระดานสนทนา
แลกเปลี่ยนความคิดเห็น
กรมส่งเสริม
การปกครองท้องถิ่น
ITA (OIT)
การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารปี 2563
e-service
ลงทะเบียนรับความช่วยเหลือ
ร้องเรียนการทุจริต
เจ้าหน้าที่ประพฤติมิชอบ online
ถาม-ตอบ Q&A
สอบถามข้อมูลต่างๆ online
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ในการดำเนินงาน/การปฏิบัติงาน
คู่มือหรือมาตรฐาน
การปฏิบัติงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
คู่มือหรือมาตรฐาน
การให้บริการของ อปท.
แนะนำผู้บริหาร /สายตรงผู้บริหาร
เจตจำนงสุจริตของผู้บริหาร
folder
เจตจำนงสุจริตของผู้บริหาร
folder
การมีส่วนร่วมของผู้บริหาร
folder
ประกาศเจตนารมณ์นโยบาย No Gift Policy จากการปฏิบัติหน้าที่
folder
การประเมินผลและรายงาน No Gift Policy
การจัดการเรื่องร้องเรียนการทุจริต
folder
แนวปฏิบัติการจัดการเรื่องร้องเรียนการทุจริตและประพฤติมิชอบ
folder
ช่องทางการแจ้งเรื่องร้องเรียนการทุจริตและประพฤติมิชอบ
folder
ข้อมูลเชิงสถิติเรื่องร้องเรียนการทุจริตประจำปี
การประเมินความเสี่ยงเพื่อการป้องกันการทุจริต
folder
การประเมินความเสี่ยงการทุจริตและประพฤติมิชอบประจําปี
folder
การดำเนินการเพื่อการจัดการความเสี่ยงการทุจริตและประพฤติมิชอบ
แผนปฏิบัติการป้องกันการทุจริต
folder
แผนปฏิบัติการป้องกันการทุจริตประจำปี
folder
รายงานการกำกับติดตามการดำเนินการป้องกันการทุจริตประจำปีรอบ-6-เดือน
folder
รายงานผลการดำเนินการป้องกันการทุจริตประจำปี
มาตรการภายในเพื่อส่งเสริมความโปร่งใสและป้องกันการทุจริต
folder
มาตรการเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะ
folder
มาตรการให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีส่วนร่วม
folder
มาตรการส่งเสริมความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้าง
folder
มาตรการจัดการเรื่องร้องเรียนการทุจริต
folder
มาตรการป้องกันการรับสินบน
folder
มาตรการป้องกันการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนร่วม
folder
มาตรการตรวจสอบการใช้ดุลยพินิจ
folder
มาตรการส่งเสริมคุณธรรมและความโปร่งใสภายในหน่วยงาน
folder
การดำเนินการตามมาตรการส่งเสริมคุณธรรมและความโปร่งใสภายในหน่วยงาน
check
ita2563
ระบบข้อมูลข่าวสาร
เว็บไซต์
กรมส่งเสริม
info
ระบบข้อมูลกลาง อปท
เว็บไซต์
อปท.ทั่วประเทศ
ข้อมูล
อปท.ทั่วประเทศ
แผนที่ภาษี
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ข้อมูล
ด้านการเงินการคลัง อปท
รหัสผ่าน
อปท. สำหรบฝึกอบรม
ข้อมูล
ครู อปท.ทั่วประทศ
ดาวน์โหลด
แบบฟอร์มทางราชการ
e-LAAS
ระบบบันทึกบัญชีท้องถิ่น
e-plan
ระบบสารสนเทศเพื่อการวางแผน
เบี้ยยังชีพ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ระบบ LEC
การศึกษาท้องถิ่น
ระบบ
ศูนย์ข้อมูลเลือกตั้ง อปท
ช่องทาง
การร้องเรียนในการบริหารงานบุคคล
ศูนย์ข้อมูลข่าวสาร
ของราชการอิเล็กทรอนิกส์อบต.ห้วยยาง
รวมลิงค์
องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยยาง
อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร
☰ เลือกเมนู
องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยยาง
home
เมนูหลัก (Main)
camera_alt
ภาพกิจกรรม
volume_down
ข่าวประชาสัมพันธ์
chat_bubble
ประกาศจัดซื้อจัดจ้าง
thumb_up
facebook
cast
ระบบการจัดซื้อจัดจ้าง egp
info
ข้อมูลหน่วยงาน
image
สถานที่ท่องเที่ยว
info_outline
วิสัยทัศน์-พันธกิจ
place
ข้อมูลหน่วยงาน
today
โครงสร้างส่วนราชการ
group
คณะผู้บริหาร
group
สำนักงานปลัด
group
กองคลัง
group
กองช่าง
group
สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล
group
หัวหน้าส่วนราชการ
group
กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม
group
หน่วยตรวจสอบภายใน
group
บุคลากรศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
forum
ข้อมูลข่าวสาร
volume_down
ข่าวประชาสัมพันธ์
chat_bubble
ประกาศจัดซื้อจัดจ้าง
folder
รายงานผลการปฏิบัติงาน
folder
งบประมาณรายจ่ายประจำปี
folder
แผนการจัดซื้อจัดจ้างแผนการจัดหาพัสดุ
folder
ข้อมูลข่าวสารกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
info_outline
ข้อมูลการติดต่อ
องค์การบริหารส่วนตำบล
ห้วยยาง
อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร
arrow_back_ios
กลับเมนูหลัก
ยินดีต้อนรับ เข้าสู่เว็บไซต์ องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยยาง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร
folder
รายงานผลการพัฒนาทรัพยากรบุคคล
รายงาน
รายงานสรุปผลการดำเนินการ โครงการอบรมเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๒ หน่วยงาน งานการเจ้าหน้าที่ สำนักงานปลัด องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยยาง อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร ระหว่างวันที่ ๑๑ – ๑๔ เดือน ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ โครงการอบรมและศึกษาดูงาน ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๒ ระหว่างวันที่ ๑๑ – ๑๔ เดือน ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ หลักการและเหตุผล องค์การบริหารส่วนตำบล ถือเป็นหน่วยงานบริหารราชการส่วนท้องถิ่นที่มีหน้าที่ให้บริการสาธารณะ แก่ประชาชนในหลายด้าน และมีภารกิจหลากหลายทั้งภารกิจตามกฎหมายจัดตั้ง และภารกิจที่ได้รับการถ่ายโอนจากหน่วยงานราชการอื่น การบริหารงานขององค์การบริหารส่วนตำบลจึงต้องอาศัยบุคลากรในฝ่ายต่าง ๆ เพื่อให้สามารถสนองความต้องการและให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นการพัฒนาบุคลากร จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มศักยภาพในการปฏิบัติงานของท้องถิ่น เนื่องจากสังคมในยุคปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเกิดสิ่งใหม่หรือนวัตกรรมใหม่อยู่เสมอ ตลอดจนเกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมทั้งในมิติของท้องถิ่นเอง หรือแม้กระทั่งระดับประเทศ เช่น การเกิดกลุ่มประชาคมอาเซียน เป็นต้น การพัฒนาศักยภาพบุคลากร การปรับปรุงแนวคิด กระบวนทัศน์ ในการพัฒนาท้องถิ่นสำหรับ คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล พนักงานส่วนตำบล พนักงานจ้าง ผู้นำท้องถิ่น ตัวแทนกลุ่มองค์กรในตำบล และข้าราชการในเขตพื้นที่ตำบลห้วยยาง ถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่จะต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการพัฒนาด้านเทคนิควิธีการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการพัฒนาชุมชนและท้องถิ่นของตนเองอย่างยั่งยืน ซึ่งการฝึกอบรมและการศึกษาดูงานนอกสถานที่ เป็นอีกวิธีการหนึ่งในการพัฒนาประสิทธิภาพบุคลากร ในการเปิดโลกทัศน์ ปรับแนวความคิด ทัศนคติ ให้มีความพร้อมในการที่จะรับประสบการณ์ใหม่นำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยยาง จึงได้จัดทำโครงการอบรมเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ขึ้น เพื่อให้บุคลากรได้เรียนรู้ระเบียบวิธีเกี่ยวกับการปฏิบัติงานตลอดจนเทคนิควิธีการปฏิบัติงานใหม่ ๆ แนวความคิดทฤษฎีใหม่ที่จะสามารถนำมาปรับใช้ในการปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ของงาน อันจะนำมาซึ่งประสิทธิภาพประสิทธิผลในการปฏิบัติงานขององค์การบริหารส่วนตำบล ซึ่งจะส่งผลต่อการให้บริการประชาชนให้เกิดความพึงพอใจอย่างสูงสุดต่อไป วัตถุประสงค์ ๒.๑ เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ ความเข้าใจ เรื่อง การบริหารจัดการภาครัฐ แนวใหม่ หลักธรรมาภิบาล และความโปร่งใสภาครัฐ คุณธรรมและจริยธรรมในการปฏิบัติงาน ตลอดจนได้เรียนรู้ในหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ๒.๒ เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรม ได้รับประสบการณ์ เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดความเห็นจากการศึกษาดูงานนอกสถานที่ ๒.๓ เพื่อสร้างความพร้อมให้แก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมให้สามารถปรับตัวตามกระแสของภาคสังคม นโยบายของรัฐบาล ๒.๔ เพื่อพัฒนาทักษะ แนวคิดวิธีการในการปฏิบัติหน้าที่ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตนเอง ต่อองค์กรและต่อประชาชนผู้รับบริการ เป้าหมาย ๓.๑ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน ๒๐ คน ๓.๒ คณะผู้บริหาร จำนวน ๑ คน ๓.๓ พนักงานส่วนตำบล จำนวน ๒๕ คน ๓.๔ พนักงานจ้าง จำนวน ๓๓ คน ๓.๕ ครู (ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก) จำนวน ๑๑ คน ๓.๖ ผู้นำชุมชน/กลุ่มองค์กรในตำบล จำนวน ๑๐ คน รวม จำนวน ๑๐๐ คน วิธีดำเนินการ ๔.๑ จัดอบรมสัมมนาโดยใช้เทคนิคการฝึกอบรมรูปแบบต่างๆ เช่น การรับฟังบรรยาย การระดมสมอง การร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ตลอดจนการซักถามปัญหาต่าง ๆ จากผู้มีความรู้และประสบการณ์ ๔.๒ ทัศนศึกษาดูงานนอกสถานที่ ณ จังหวัดเพชรบูรณ์และจังหวัดเลย ๔.๓ ประเมินผลโครงการ โดยใช้วิธีการสังเกตจากพฤติกรรมของผู้เข้าร่วมอบรมสัมมนาหลังจากเข้าร่วมโครงการ ระยะเวลาและสถานที่ดำเนินการ ๕.๑ ดำเนินการตามโครงการ ระหว่างวันที่ ๑๑ – ๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๑ ๕.๒ ฝึกอบรม ระหว่างวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๑ ณ ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยยาง ๕.๓ ศึกษาดูงานนอกสถานที่ ระหว่างวันที่ ๑๑ – ๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๑ รายละเอียดตามกำหนดการแนบท้าย งบประมาณ งบประมาณ ๔๐๐,๐๐๐ บาท(สี่แสนบาทถ้วน) ผู้รับผิดชอบโครงการ สำนักปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยยาง วันอบรม (วันอังคาร ที่ ๑๑ เดือน ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๑) เวลา ๐๘.๐๐ - ๐๘.๓๐ น. ผู้เข้าร่วมโครงการลงทะเบียนรับเอกสาร เวลา ๐๘.๓๐ – ๐๙.๐๐ น. พิธีเปิดการอบรมโดย นายรำลึก อิงเอนุ ตำแหน่ง ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล ปฏิบัติหน้าที่ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยยาง เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. ว่าที่ร้อยตรี เกรียงศักดิ์ ชูกลิ่น หัวหน้ากลุ่มงานกฎหมาย สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดสกลนคร วิทยากรบรรยายในหัวข้อ “การบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่และหลักธรรมาภิบาลและความโปร่งใสในการปฏิบัติงาน” ผู้เข้าอบรมได้ความรู้เกี่ยวกับข้อกฎหมายที่จำเป็นหลักธรรมาภิบาลและการบริหารงานด้วยความโปร่งใส โดยสรุปเนื้อหาได้ดังนี้ หลักการสำคัญที่สุดในการดำเนินการจัดการความรู้ คือ ต้องดำเนินการอย่างง่ายที่สุด ไม่เน้นการใช้เครื่องมือหรูหราหรือยุ่งยาก เริ่มจากกิจกรรมดี ๆ เช่น best practice กิจกรรมกลุ่มสร้างสรรค์ในงานประจำที่มีอยู่แล้วภายในหน่วยงานหรือองค์กร นำมาจัดการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิช่วยกระตุ้นและมีการตั้งคำถาม เพื่อให้กลุ่มงานมีการนำเสนอกิจกรรมของตนอย่างมีชีวิตชีวา และเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ทรงพลัง เช่น ๑) มีใครหรือเหตุการณ์ใดที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการพัฒนางานจนเกิด best practice อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ในช่วงเวลาของการพัฒนาดังกล่าว ใครบ้างเข้ามามีส่วนร่วม ร่วมอย่างไร เกิดกระบวนการอะไรบ้างที่เป็นปัจจัยสำคัญนำไปสู่ความสำเร็จ ความยากลำบากที่ต้องเผชิญคืออะไรบ้าง ได้เอาชนะอุปสรรคนั้นอย่างไร ๒) มีการใช้ความรู้อะไรบ้างในการดำเนินกิจกรรม/ ดำเนินงาน และได้ความรู้เหล่านั้นมาจากไหน ๓) มีแผนจะทำให้ดียิ่งขึ้นอย่างไร ต้องการความช่วยเหลืออะไรบ้าง ๔) คิดว่ามีหน่วยงานใดบ้างที่น่าจะเรียนรู้จากกิจกรรมของกลุ่มของท่านได้ ๕) มีความรู้อะไรบ้างที่พร้อมจะแลกเปลี่ยนกับเพื่อนร่วมงานในหน่วยงานอื่นภายในองค์กร กล่าวโดยสรุป การจัดการความรู้เป็นเครื่องมือที่ผู้บริหารองค์การนำมาใช้การบริหารหน่วยงานให้เป็นไปตามรูปแบบการบริหารราชการแนวใหม่ เพื่อให้หน่วยงานเกิดการพัฒนาความรู้ควบคู่กับการดำเนินงาน ส่งผลให้เกิดการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานระหว่างหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการนำหลักธรรมาภิบาลไปใช้ในการบริหารจัดการทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อให้เกิดผลสำเร็จหน่วยงานต้องดำเนินการ ดังนี้ ๑. ต้องร่วมมือกันบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมไทยให้ดียิ่งขึ้น หมายถึง ทุกภาคในสังคม ได้แก่ ภาครัฐ ภาคธุรกิจเอกชน และภาคประชาชน ต้องร่วมมือกันบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมไทยให้ดียิ่งขึ้นๆ ไป ๒. ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง หมายถึง การบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดีต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสำคัญ คือ ผู้นำและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ต้องเข้าใจมีจิตสำนึก เห็นความจำเป็นและความสำคัญของการดำเนินการในเรื่องนี้ ๓. หลักการและวิธีการใช้อำนาจ หมายถึง กระบวนการสร้าง การบริหารกิจการบ้านเมือง และสังคมที่ดีในสังคมใดๆ ขึ้นอยู่กับวิธีการใช้อำนาจ ซึ่งแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ผู้ใช้อำนาจและผู้ถูกใช้อำนาจหากทั้งสองผ่ายพอใจในวิธีการบริหารกินการบ้านเมืองและสังคม ย่อมหมายความว่า สังคมนั้นมีการบริหารจัดการบ้านเมืองและสังคมที่ดี ๔. ดำเนินการให้เป็นไปตามองค์ประกอบ องค์ประกอบการสร้างระบบบริหารกิจการบ้านเมือง และสังคมที่ดีมี ๔ ประการ คือ · ความเชื่อของผู้มีอำนาจว่าอำนาจสามารถแบ่งปันได้ · กลไกการแบ่งปันอำนาจ · กลไกการคานอำนาจ · ระบบการตรวจสอบการใช้อำนาจและการคานอำนาจ หลักธรรมาภิบาลจึงถือเป็นหลักพื้นฐานในการปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาในการบริหารจัดการเพราะจะช่วยให้สามารถบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังทำให้พนักงานทุกคนมีความสุขในการทำงาน และยังช่วยสร้างขวัญและกำลังใจที่ดี พร้อมปฏิบัติหน้าที่ตามที่ตนได้รับมอบหมายอย่างเต็มกำลังความสามารถ ซึ่งจะส่งผลดีโดยรวมกับการดำเนินงานให้เจริญก้าวหน้าต่อไปได้อีกในอนาคต หลักธรรมาภิบาลมีประโยชน์ต่อภาครัฐ เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๔.๓๐ น. นายธวัชชัย พรมดี ตำแหน่ง ท้องถิ่นอำเภอเมืองสกลนคร มาเป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อเรื่อง “การสร้างคุณธรรมและจริยธรรมในการทำงาน” ผู้เข้าอบรมได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการสร้างคุณธรรมและจริยธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ โดยสรุปเนื้อหาได้ดังนี้ การสอน "คุณธรรม/จริยธรรม" เป็นความต้องการที่คนรุ่นหนึ่งจะชี้นำคนอีกรุ่นหนึ่ง โดยผู้สอนมีความเชื่อว่าประสบการณ์ของตนอาจสร้างความเข้าใจเรื่อง คุณธรรม/จริยธรรม (หรือความดี ความถูกต้อง ความเหมาะสม) อย่างถ่องแท้ในระดับหนึ่ง และต้องการให้ เยาวชนเชื่อ ดีและเหมาะสมกับเยาวชน การยึดหลักคุณธรรม/จริยธรรม ทำให้มนุษย์มีความสุข ความสวย และความงาม โดยที่ความสุขนั้นควรเป็นความสุขแบบเรียบง่ายและยั่งยืน คุณสมบัติอันเป็นความพร้อมที่จะพัฒนา จริยธรรมของบุคคลประกอบด้วย ๑. ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติของชีวิตและหลัก จริยธรรม ทุกคนได้มีโอกาสเรียนรู้มาตั้งแต่วัยต้นของชีวิตจากการเลี้ยงดู การศึกษาอบรม และจากประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน โดยอาจเป็นในวิถีทางที่ต่างกัน ซึ่งเป็นผลให้บุคคลมีพัฒนาการทางจริยธรรมต่างกัน จากกฎเกณฑ์การตัดสินที่ต่างกัน ๒. ความใฝ่ธรรม มนุษย์มีธรรมชาติ ของการ แสวงหาความถูกต้องเป็นธรรมหรือความดีงามตั้งแต่วัยทารก คุณสมบัตินี้ทำให้บุคคลนิยมคนดี ชอบสังคมที่มีคุณธรรมจริยธรรม ต้องการที่จะพัฒนาตนเองให้เป็นคนดี อย่างไรก็ตามประสบการณ์ในชีวิตจากการเลี้ยงดูและเจริญเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมคุณธรรม เป็นปัจจัยสำคัญให้บุคคลพร้อมที่จะพัฒนาตนเองให้มีจริยธรรมสูงกว่า ๓. ความรู้จักตนเองของบุคคลนั้น ความรู้จักตนเองของบุคคล คือ สร้างความสามารถในการพิจารณาให้รู้อิทธิพลของความดีและความไม่ดีของตนให้ชัดเจน ซึ่งจะช่วยให้บุคคลสามารถเสริมสร้างความดีของตนให้มีพลังเข็มแข็ง ในลักษณะที่ตนเองและสังคมยอมรับได้ ความรู้จักตนเองนี้จะทำให้บุคคลมีความมั่นใจ มีพลังและพร้อมที่จะขจัดความไม่ดีของตนและพัฒนาตนเองอย่างถูกต้องดีขึ้น วิถีทางพัฒนาจริยธรรม ๑. การศึกษาเรียนรู้ กระทำได้หลายวิธี ดังนี้ ๑.๑ การศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเอง ด้วยการหาความ รู้จากการอ่านหนังสือเกี่ยวกับปรัชญาศาสนา วรรณคดีที่มีคุณค่า หนังสือเกี่ยวกับจริยธรรมทั่วไปและ จริยธรรมวิชาชีพ ๑.๒ การเข้าร่วมประชุมสัมมนา เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นและประสบการณ์เกี่ยวกับคุณธรรมจริยธรรม และการคบหาบัณฑิตผู้ใส่ใจด้าน จริยธรรม ๑.๓ การเรียนรู้จากประสบการณ์ชีวิตและจากประสบการณ์ในสถานที่ปฏิบัติงาน ประสบการณ์จริงเป็นโอกาสอันประเสริฐในการเรียนรู้จริยธรรมแห่งชีวิต ที่ช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้อย่างลึกซึ้งทั้งด้านเจตคติและทักษะการแก้ปัญหาเชิง จริยธรรม อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับความพร้อมของบุคคล ผู้มีความพร้อมน้อยอาจจะไม่ได้ประโยชน์จากการเรียนรู้อันมีค่านี้เลย ๒. การวิเคราะห์ตนเอง บุคคลผู้มีความพร้อมจะพัฒนามีความตั้งใจและเห็นความสำคัญของการวิเคราะห์ตนเองเพื่อทำความรู้จักในตัวตนเอง ด้วยการพิจารณาเกี่ยวกับความรู้สึกนึกคิดและพฤติกรรมการแสดงออกของตนเอง จะช่วยให้บุคคลตระหนักรู้คุณลักษณะของตนเอง รู้จุดดีจุดด้อยของตน รู้ว่าควรคงลักษณะใดไว้ การวิเคราะห์ตนเอง กระทำได้ด้วยหลักการต่อไปนี้ ๒.๑ การรับฟังความคิดเห็นเชิงวิพากษ์จากคำพูดและอากัปกิริยาจากบุคคลรอบข้าง เช่น จากผู้บังคับบัญชา จากเพื่อนร่วมงาน จากผู้ใกล้ชิดหรือบุคคลในครอบครัว ๒.๒ วิเคราะห์ตนเองเกี่ยวกับความคิด ความต้องการเจตคติการกระทำ และผลการ กระทำทั้งในอดีตและปัจจุบัน ๒.๓ ค้นหาความรู้จากแหล่งความรู้ต่างๆ เช่น จากตำรา บทความ รายงานการวิจัยด้านพฤติกรรมศาสตร์หรือศาสตร์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์และพัฒนาตนอย่างถ่องแท้ ๒.๔ เข้ารับการอบรมเพื่อพัฒนาจิตใจ (จิตใจและพฤติกรรมมนุษย์เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงและพัฒนาได้เช่นเดียวกับสรรพสิ่งทั้งหลายในโลก) ทำให้จิตใจได้เกิดการเปลี่ยนแปลงเกิดปัญญารับรู้ตนเองอย่างลึกซึ้งและแท้จริง ๓. การฝึกตน เป็นวิธีการพัฒนาด้าน คุณธรรมจริยธรรมด้วย ตนเองขั้นสูงสุด เพราะเป็นการพัฒนาความสามารถของบุคคล ในการ ควบคุมการประพฤติปฏิบัติของตนให้อยู่ในกรอบของพฤติกรรมที่พึงปรารถนาของสังคม ทั้งในสภาพการณ์ปกติและเมื่อเผชิญปัญหาหรือขัดแย้ง การฝึกตน เป็นวิธีการพัฒนาด้าน คุณธรรม จริยธรรมด้วยตนเองขั้นสูงสุด เพราะเป็นการพัฒนาความสามารถของบุคคล ในการควบคุมการประพฤติปฏิบัติของตนให้อยู่ในกรอบของพฤติกรรมที่พึงปรารถนาของสังคม ทั้งในสภาพการณ์ปกติและเมื่อเผชิญปัญหาหรือขัดแย้ง ๓.๑ การฝึกวินัยขั้นพื้นฐาน เช่น ความขยันหมั่นเพียร การพึ่งตนเอง ความตรงต่อเวลา ความรับผิดชอบ การรู้จักประหยัดและออม ความซื่อสัตย์ ความมี สัมมาคารวะ ความรักชาติฯ ๓.๒ การรักษาศีลตามความเชื่อในศาสนาของตน ศีลเป็นตัวกำหนดที่จะทำให้งดเว้นในการที่จะกระทำชั่วร้ายใด ๆ อยู่ในจิตใจ ส่งผลให้บุคคลมีพลังจิตที่เข้มแข็งรู้เท่าทันความคิดสามารถควบคุมตนได้ ๓.๓ การทำสมาธิ เป็นการฝึกให้เกิดการตั้งมั่นของจิตใจทำให้เกิดภาวะมีอารมณ์หนึ่งเดียวของกุศลจิต เป็นจิตใจที่สงบผ่องใสบริสุทธิ์เป็นจิตที่เข้มแข็ง มั่นคง แน่วแน่ ทำให้เกิดปัญญาสามารถพิจารณาเห็นทุกอย่างตรงสภาพความเป็นจริง ๓.๔ ฝึกการเป็นผู้ให้ เช่น การรู้จัก ให้อภัย รู้จักแบ่งปันความรู้ ความดีความชอบ บริจาคเพื่อสาธารณะประโยชน์ อุทิศแรงกายแรงใจช่วยงานสาธารณะประโยชน์โดยไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ สรุปได้ว่า การพัฒนาจริยธรรมด้วยวิธีพัฒนาตนเองตามขั้นตอนดังกล่าว เป็นธรรมภาระที่บุคคลสามารถปฏิบัติได้ควบคู่กับการดำเนินชีวิตประจำวัน แต่มิใช่เป็นการกระทำในลักษณะเสร็จสิ้น ต้องกระทำอย่างต่อเนื่องจนเป็นนิสัย เพราะจิตใจของมนุษย์เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เฉกเช่น กระแสสังคมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เวลา ๑๔.๔๕ – ๑๖.๔๕ น. นายพุฒิพงษ์ ยะพลหา ตำแหน่ง นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเมืองสกลนคร บรรยายในหัวข้อเรื่อง “ การนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในครอบครัว และชุมชน” ทำให้ผู้เข้าอบรมได้รับความรู้ในการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง โดยสรุปเนื้อหาได้ดังนี้ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จากแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช (รัชกาลที่ ๙) ที่ทรงให้แนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยตลอดนานกว่า ๓๐ ปี คือ ใช้จ่าย ๓ ส่วน และเก็บออม ๑ ได้นำมาปฏิบัติทำให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น ภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือ การนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ครอบครัวของฉันอยู่แบบเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรง ดังนี้ ๑. พอมีพอกิน ปลูกพืชสวนครัวไว้กินเองบ้าง ปลูกไม้ผลไว้หลังบ้าน ๒-๓ ต้น พอที่จะมีไว้กินเองในครัวเรือน แบ่งให้เพื่อนบ้านบ้าง เหลือจึงขายไป ๒. พออยู่พอใช้ ทำให้บ้านน่าอยู่ ปราศจากสารเคมี กลิ่นเหม็นใช้แต่ของที่เป็นธรรมชาติ รายจ่ายลดลง สุขภาพจะดีขึ้น (ประหยัดค่ารักษาพยาบาล) คุณพ่อของฉันและฉันมักเน้นเกี่ยวกับเรื่องไฟฟ้าและน้ำประปา ท่านให้พวกเราช่วยกันประหยัด ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรือโรงเรียน ก็ควรปิดน้ำ ปิดไฟ เมื่อเลิกใช้งานทุกครั้ง ๓. พออกพอใจ เราต้องรู้จักพอ รู้จักประมาณตน ไม่ใคร่อยากใคร่มีเช่นผู้อื่น เพราะเราจะหลงติดกับวัตถุ ชีวิต โดยจะอยู่ในกิจกรรม “ออมวันนี้ เศรษฐีวันหน้า” ๔. เมื่อมีรายได้แต่ละเดือน จะแบ่งไว้ใช้จ่าย 3 ส่วน เป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าจิปาถะ ที่ใช้ในครัวเรือน รวมทั้งค่าเสื้อผ้า เครื่องใช้บางอย่างที่ชำรุด เป็นต้น ๕. ฉันจะยึดความประหยัด ตัดทอนรายจ่ายในทุกๆ วันที่ไม่จำเป็น ลดละความฟุ่มเฟือย การปฏิบัติตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ยึดหลัก พออยู่ พอกิน พอใช้ ยึดความประหยัด ตัดทอนค่าใช้จ่าย ลดความฟุ่มเฟือย ในการดำรงชีพ “ความเป็นอยู่ที่ต้องไม่ฟุ้งเฟ้อต้องประหยัดไปในทางที่ถูกต้อง” ยึดถือการประกอบอาชีพด้วยความถูกต้องและสุจริต “ความเจริญของคนทั้งหลายย่อมเกิดมาจากการประพฤติชอบ และการหาเลี้ยงชีพชอบเป็นสำคัญ” ละเลิกการแก่งแย่งผลประโยชน์และแข่งขันในการค้าขาย ประกอบอาชีพแบบต่อสู้กันอย่างรุนแรง “ความสุขความเจริญอันแท้จริง หมายถึง ความสุข ความเจริญ ที่บุคคลแสวงหามาได้ด้วยความเป็นธรรมทั้งในเจตนาและการกระทำ ไม่ใช่ได้มาด้วยความบังเอิญหรือด้วยการแก่งแย่งเบียดบังจากผู้อื่น” มุ่งเน้นหาข้าวหาปลา ก่อนมุ่งเน้นหาเงินหาทอง ทำมาหากินก่อนทำมาค้าขาย ภูมิปัญญาชาวบ้านและที่ดินทำกิน คือทุนทางสังคม ตั้งสติที่มั่นคง ร่างกายที่แข็งแรงปัญญาที่เฉียบแหลม ข้อเสนอแนะ เศรษฐกิจพอเพียงจะดำเนินไปได้ดี ด้วยการ ประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนปฏิบัติตาม ที่ขอให้อย่าลืมที่จะปฏิบัติในเรื่อง ความขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ อดทน ปฏิบัติตนเป็นคนดี ดำเนินชีวิตแบบเรียบง่ายให้พอเพียง พอกิน และพอใช้ โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ถึงเวลาแล้วที่พวกเราทุกคนควรร่วมมือ ร่วมใจ กันปฏิบัติตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงตั้งแต่ยังเด็ก แล้วจะติดเป็นนิสัยความพอเพียงไปตลอดชีวิต สามารถนำไปพัฒนาตน พัฒนาประเทศชาติให้เจริญ ก้าวหน้า เป็นบุคคลที่มีคุณภาพ เป็นคนดีของสังคม เศรษฐกิจพื้นฐาน ประกอบด้วยลักษณะสำคัญคือ • เป็นเศรษฐกิจ ของคนทั้งมวล • มีชุมชนที่เข้มแข็งเป็นพื้นฐานของเศรษฐกิจ • มีความเป็นบูรณาการเข้มแข็งไปพร้อม ๆ กันหมด ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และ วัฒนธรรม • เติบโตบนพื้นฐานที่เข้มแข็งของเราเอง เช่น ด้านเกษตร หัตถกรรม อุตสาหกรรม สมุนไพร อาหาร การท่องเที่ยว เป็นต้น • มีการจัดการที่ดีเป็นพื้นฐาน ส่งเสริมการเกิดนวัตกรรมต่าง ๆ ให้สามารถนำมาใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง การพัฒนาประเทศตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาประเทศ มิได้มีแบบอย่างตายตัวตามตำรา หากแต่ต้องเป็นไปตามสภาพภูมิประเทศทางภูมิศาสตร์ สังคมวิทยา วัฒนธรรมชุมชน ที่มีความหลากหลาย ในขณะเดียวกันเราก็ต้องเข้าใจในการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วตามอิทธิพลของกระแสโลกาภิวัฒน์ ควบคู่ไปกับการพยายามหาแนวทางหรือวิธีการที่จะดำรงชีวิตตามหลักการพื้นฐานของเศรษฐกิจพอเพียง ให้ดำเนินไปได้อย่างสมดุลและสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมในยุคโลกาภิวัฒน์ โดยอาศัยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นตัวสร้างภูมิคุ้มกันต่อผลกระทบที่ชุมชนอาจจะได้รับ ไม่ให้กระแสเหล่านั้นมาทำลายเอกลักษณ์และวัฒนธรรมชุมชนจนต้องล่มสลายไป จากแนวพระราชดำริ เศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางที่ให้ประชาชนดำเนินตามวิถีแห่งการดำรงชีพ ที่สมบูรณ์ ศานติสุข โดยมีธรรมะเป็นเครื่องกำกับ และใจตนเป็นที่สำคัญ ซึ่งก็คือ วิถีชีวิตไทย ที่ยึดเส้นทางสายกลางของความพอดี ในหลักของการพึ่งพาตนเอง ๕ ประการ คือ • ความพอดีด้านจิตใจ : เข้มแข็ง พึ่งตนเองได้ มีจิตสำนึกที่ดี เอื้ออาทร ประณีประนอม คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม • ความพอดีด้านสังคม : มีการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน สร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน รู้จักผนึกกำลัง และที่สำคัญมีกระบวนการเรียนรู้ที่เกิดจากฐานรากที่มั่นคงและแข็งแรง • ความพอดีด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม : รู้จักใช้และจัดการอย่างฉลาดและรอบคอบ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนสูงสุด ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในประเทศ เพื่อพัฒนาประเทศให้มั่นคงเป็นขั้นเป็นตอนไป • ความพอดีด้านเทคโนโลยี : รู้จักใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมให้สอดคล้องกับความต้องการและควร พัฒนาเทคโนโลยีจากภูมิปัญญาชาวบ้านของเราเอง และสอดคล้องเป็นประโยชน์ต่อสภาพแวดล้อมของเราเอง • ความพอดีด้านเศรษฐกิจ : เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ดำรงชีวิตอย่างพอสมควร พออยู่ พอกินตามอัตภาพ และฐานะของตนเอง จะเห็นได้ว่าการพัฒนาเริ่มจาก การสร้างพื้นฐาน ความพอกินพอใช้ ของประชาชนในชาติเป็นส่วนใหญ่ก่อน แล้วจึงค่อยเสริมสร้างความเจริญและฐานะทางเศรษฐกิจ ตามลำดับ เพื่อจะได้เกิดสมดุลทางด้านต่าง ๆ หรือ เป็นการดำเนินการไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอน จากระดับหนึ่งไปสู่อีกระดับหนึ่ง โดยสร้างความพร้อมทางด้านต่าง ๆ อย่างเหมาะสม ที่ไม่ใช่เป็นการ“ ก้าวกระโดด ”ที่ต้องใช้ปัจจัยภายนอกต่าง ๆ มาเป็นตัวกระตุ้น เพียงเพื่อให้เกิดความทันกันในชั่วขณะหนึ่ง ซึ่งในที่สุดประชาชนไม่สามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับความต้องการและการแข่งขันดังกล่าวได้ ก็จะเกิดปัญหาตามมา ดังที่ประเทศไทยได้ประสบปัญหาเศรษฐกิจ เมื่อปี ๒๕๔๐ ศึกษาดูงาน วันพุธ ที่ ๑๒ เดือน ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ศึกษาดูงาน ที่ไร่ทิพย์เสาวรส & ไร่พริกไทยลุงประมาณ คณะศึกษาดูงาน ได้เดินทางไปถึงไร่ทิพย์เสาวรส&ไร่พริกไทยลุงประมาณ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ เวลาประมาณ ๐๙.๐๐ น. และได้เข้าเยี่ยมชมและศึกษาดูงานด้านการบริหารจัดการตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเกิดจากการที่คุณดวงทิพย์ สายโสภา และคุณประมาณ สายโสภา สองสามีภรรยา ได้ช่วยกันบุกเบิกพื้นที่ มรดกที่ได้รับจากบิดามารดา ทำการเกษตรแบบผสมผสาน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง บนพื้นที่ ๑๔ ไร่ โดยใช้หลักการธรรมชาติให้พืชพึ่งพิงกันและกัน เน้นการปลูกพืชแบบปลอดสารพิษ จุดเด่นของไร่ทิพย์เสาวรส & ไร่พริกไทยลุงประมาณ เน้นการปลูกพืชผสมผสานกัน เช่น เสาวรส พริกไทย สะตอ อโวกาโด เงาะ มะไฟ ลิ้นจี่ ทุเรียน ดีปลากั้ง แก้วมังกร กาแฟ อาราบิก้า ฯลฯ ไร่ทิพย์เสาวรส & ไร่พริกไทยลุงประมาณ เป็นศูนย์เรียนรู้เกษตรปลอดภัย (ได้ใบรับรอง GAP) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรของอำเภอเขาค้อ มีนักท่องเทียวและหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศแวะเยี่ยมชมและเข้าศึกษาดูงานตลอดปี นักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เคยแวะเยี่ยมชมได้แก่ สิงคโปร์ จีน และเวียดนาม เมื่อปี ๒๕๒๘ ได้รับการคัดเลือกให้เป็นปราชญ์เกษตรดีเด่นประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ นอกจากนี้ยังได้รับความไว้วางใจจากโครงการหลวงดอยคำ ให้ส่งวัตถุดิบเสาวรส (เนื้อพร้อมเมล็ด) เป็นจำนวนมาก ผลผลิตและผลิตภัณฑ์ในไร่มีตามฤดูกาล ทั้งน้ำเสาวรสสดพร้อมดื่ม ลูกเสาวรส พริกไทยสด พริกไทยขาว พริกไทยดำ กิ่งพันธ์พริกไทย สะตอ มะไฟ อโวคาโด้ ดอกดีปลากั้ง เงาะ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์จากอโวคาโด้ ได้แก่ สบู่ ครีม และแชมพูจำหน่ายอีกด้วย ไร่ทิพย์เสาวรส & ไร่พริกไทยลุงประมาณ เป็นอีก ๑ ตัวอย่างของการทำเกษตรแบบผสมผสาน ที่นักท่องเที่ยวทั่วไป นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน